อย่างที่ทราบกันดีว่า นักฟุตบอลนั้นหากธรรมชาติของเขานั้นถนัดในตำแหน่งไหนแล้ว ก็จะทำได้ดีหากมีโอกาสลงเล่นในพื้นที่และบทบาทของตัวเองกันทุกคน และถ้าถูกโยกไปยืนตรงอื่นแล้วส่วนมากก็จะเป๋ออกทะเลกันแทบทั้งหมด

แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้เล่นบางคนที่สามารถปรับตัว และเปลี่ยนแปลงการเล่นของตัวเอง ใช้ทักษะที่มีอยู่ดึงศักยภาพในตำแหน่งใหม่ออกมาได้อย่างสูงสุดจนเรียกว่ารุ่งเรืองสุด ๆ ซะจนยอมย้ายตัวเองไปถาวรเลยก็มี

ผู้เล่นระดับท็อป 5 คนที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้คือคนที่เปลี่ยนตำแหน่งแล้ว ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนต้องยอมยกนิ้วให้

1. แกเร็ธ เบล – จาก แบ็คซ้าย เป็น ปีก, กองหน้า

สำหรับดาวเตะทีมชาติเวลส์คนนี้ หากพูดถึงเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งแล้วล่ะยังไงก็ต้องมีชื่อติดอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน เพราะเจ้าตัวมีผลงานที่เห็นชัดเจนสุด ๆ แถมยังประสบความสำเร็จเป็นนักเตะระดับเวิร์ลคลาสที่ครั้งหนึ่งเคยครองสถิติค่าตัวสูงสุดด้วย

สมัยยังเป็นดาวรุ่งอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน นั้น เบล เริ่มจากการเป็นแบ็คซ้ายมาก่อน จากนั้นพอมาเล่นให้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ก็ค่อย ๆ เติมตัวเองสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปีกซ้ายเต็มตัว เพราะความเร็วกว่านรกที่เจ้าตัวมีหากไมเอามาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ก็ดูจะเสียของเกินไป

แต่หลังย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด แล้ว เล่นเป็นแค่ปีกสงสัยจะมันส์ไม่พอ จึงอยากจะขอให้ยืนขึ้นสูงเป็นหนึ่งแนวรุกระบบหน้า 3 ตัว ร่วมกันกับ คาริม เบนเซมา และ คริสเตียโน โรนัลโด้ จนเป็นที่มาของชื่อสามประสาน BBC นั่นเอง

2. เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา – จาก แบ็คซ้าย เป็น เซ็นเตอร์

นับตั้งแต่ดาวเตะสัญชาติสเปนคนนี้สร้างชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นผู้เล่นของ เชลซี เมื่อปี 2012 เราทุกคนคุ้นเคยว่าเขาคือ แบ็คซ้าย ที่มีฟอร์มการเล่นอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่ามาตรฐานไม่เคยตกเลยแม้แต่นิดเดียว

และ อัซปิลิกูเอตา ก็เป็นผู้เล่นฟูลแบ็คที่ทำให้ผู้จัดการของสโมสรอื่น ๆ ต้องอิจฉา เชลซี เพราะนี่คือคนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบสุด ๆ สำหรับตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบุก การตั้งรับ ทัศนคติ วิสัยทัศน์ สภาพจิตใจ ความเป็นผู้นำ รวมถึงทักษะการเล่นอื่น ๆ เช่นเลี้ยง, ส่ง, ยิง ฯลฯ นั้นอยู่ในเกณฑ์สูงเลยทีเดียว

แต่หลังจากที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ย้ายเข้ามารับงานผู้จัดการทีม แล้วติดตั้งระบบ 3-4-3 ให้กับทัพสิงโตน้ำเงินครามชุดนี้ พี่เดฟ ของเด็กสิงห์ ก็โดนโยกถอยลงมาเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ ที่จะไม่ได้บุกมัน ๆ เหมือนแต่ก่อนแล้ว แถมยังต้องรับมือกับเกมบุกของฝ่ายตรงข้ามเต็มตัว แต่เขาก็ทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติ จนทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้อย่างเหลือเชื่อเมื่อซีซั่นก่อนนั่นเอง

3. แวงซองต์ กอมปานี – จาก มิดฟิลด์ตัวรับ เป็น เซ็นเตอร์แบ็ค

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2002 หรือ 2003 ที่ กอมปานี คนนี้ยังคงเป็นดาวรุ่งอยู่กับทีม อันเดอร์เลชท์ เชื่อว่าน่าจะมีแฟน ๆ ของเกม CM Manager รู้จักมักคุ้นกับเขาเป็นอย่างดี เพราะนี่คือดาวรุ่งชั้นยอดที่สามารถดึงตัวมาได้แบบฟรี ๆ ตั้งแต่อายุ 16 แถมการันตีการพัฒนาขึ้นเป็นระดับโลกได้ในทุก ๆ เซฟอีกด้วย

ซึ่งตำแหน่งแรกเริ่มของ กอมปานี ทั้งในเกมและชีวิตจริงนั้นก็คือ มิดฟิลด์ตัวรับ นั่นเอง ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นมาตลอดหลายปียาวถึงจนถึงช่วงการค้าแข้งให้ ฮัมบูร์ก ในประเทศเยอรมนี

แต่หลังจากที่เขาถูกซื้อมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2008 ตำแหน่งที่เคยคุ้นชินก็ถูกปรับเปลี่ยนลงมาลึกขึ้น จนกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คเต็มตัว และที่สำคัญถูกยกย่องว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในตำแหน่งนี้เสียด้วยสิ

4. อันโตนิโอ วาเลนเซีย – จาก ปีกขวา เป็น แบ็คขวา

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้เล่นในตำแหน่งตัวรุกสักคนจะเปลี่ยนตัวเองมาเล่นเป็นตัวรับแล้วประสบความสำเร็จรุ่งเรืองได้อย่าง “พี่รถด่วน” อันโตนิโอ วาเลนเซีย ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนนี้

วาเลนเซีย แจ้งเกิดขึ้นมาอยู่บนวงการลูกหนังได้จากตอนเล่นให้ วีแกน แอธเลติก ซึ่งแน่นอนว่าคือปีกขวาที่มีความเร็วสูงจัดเป็นอาวุธร้าย ก่อนจะถูก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงตัวมาอยู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนปี 2009

อย่างไรก็ตาม พี่รถด่วน นั้นก็มีช่วงฟอร์มตกเช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่น ๆ จนโดน ป๋ากี้ ดร็อปไป ก่อนจะเสียดายในฝีเท้าเลยลองให้ลงยืนเป็นแบ็คขวาดู ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าก้าวผ่านความยากลำบากนี้ไปจนได้กลายเป็นยอดแบ็คขวาเต็มตัวอย่างทุกวันนี้

5. ดรีส์ เมอร์เทนส์ – จาก ปีก เป็น ศูนย์หน้าตัวเป้า

ศูนย์หน้าดาวดังของ นาโปลี คนนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่กำลังเนื้อหอมสุด ๆ เพราะหลังจากที่ระเบิดฟอร์มถล่มประตูได้มากมายถึง 34 ลูกเมื่อซีซั่นก่อน บรรดาทีมชั้นนำจากทั่วยุโรป ก็พยายามขอซื้อตัวกันแบบไม่หยุดหย่อน

แต่หากใครไม่ได้ติดตามเกมของ นาโปลี มาก่อนหน้า ก็คงจะไม่ทราบเลยว่านั่นคือปีแรกที่เขาเพิ่งถูกย้ายขึ้นมายืนเป็นสไตรเกอร์ตรงกลางแบบเต็มตัวครั้งแรกให้ต้นสังกัด ซึ่งก็ถูกใจขาโจ๋กันไปทั้งบาง

โดยก่อนหน้านี้ เมอร์เทนส์ มีตำแหน่งเป็นปีกที่เน้นในเรื่องของการสร้างสรรค์จังหวะเข้าทำให้กับบรรดาศูนย์หน้าอย่างเช่น กอนซาโล อิกวาอิน หรือ อาร์คาดิอุซ มิลิค เป็นตัวยิงเสียมากกว่า

แต่ซีซั่นก่อน มิลิค นั้นเจ็บเข่าต้องพักยาวเมื่อปีก่อน ทำให้กุนซือนาโปลี ตัดสินใจขยับ เมอร์เทนส์ ขึ้นมายืนเป็นหน้าเป้าเสียเลย ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจแบบไม่มีใครอยากเชื่อ