อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ศึกฟุตบอลที่ทั้งโลกรอคอยอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 ก็จะเปิดฉากความมันส์ขึ้นแล้ว เชื่อว่าปีนี้คอลูกหนังส่วนใหญ่น่าจะกำลังตื่นเต้นกันอย่างถึงขีดสุด เพราะนี่คือช่วงเวลาที่เราตั้งความหวังให้กับทีมรักได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นจริงหรือเปล่า เพราะขณะที่เกมการแข่งขันยังไม่เริ่ม ทุกทีมถือว่ามีความหวังเท่ากันหมด เพราะนี่คือโลกแห่งฟุตบอลที่อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ อย่างไรก็ตาม เรามาดูกันดีกว่าว่าจากทั้งหมด 20 ทีมบนลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ  5 ทีมไหนที่ได้รับการยกย่องว่ามีโอกาสเป็นแชมป์มากที่สุด เมื่อวัดจากความแข็งแกร่ง และความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ส่วนจะตรงใจกันหรือไม่นั้น ก็คงพูดได้คำเดียวว่า “แล้วแต่ !” เอ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปอ่านกันได้เลย !!

นับตั้งแต่เวทีการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 มีทีมที่เคยก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย ซึ่งแต่ละปีก็ทำแต้มได้มากน้อยแตกต่างกันไปจากการลงเล่น 38 นัด และนี่ก็คือ 5 สโมสรผู้ครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการทำแต้มได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ จะมีใครบ้างนั้น ไปชมกัน !!

ในกีฬาฟุตบอลนั้น ถึงแม้จะมีผู้เล่นมากมายค้าแข้งอยู่ในแต่ละทีม แต่คนที่ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดนั้นย่อมเป็น “กัปตันทีม” ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกุนซืออย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกมอบหมายงานให้รับบทบาทนี้ หมายความพวกเขามีคุณสมบัติเพียบพร้อม โดยเริ่มจากความเป็นผู้นำ ฝีเท้า เสน่ห์ ความรับผิดชอบ พฤติกรรมที่เป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นในด้านดีทั้งในและนอกสนาม ฯลฯ ฉะนั้นบอกเลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายจะมาทำกันเล่น ๆ ! และในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังที่เราติดตามข่าวสารกันอยู่ตลอดนั้นก็มีกัปตันทีมอยู่หลายคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งและบทบาทอันทรงเกียรตินี้สุด ๆ จนแฟน ๆ และเพื่อนร่วมทีมรักเคารพมากจนถึงขนาดว่า แม้จะย้ายทีมหรือแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นกัปตันในดวงใจอยู่เสมอมาไม่มีวันเสื่อมคลาย ฉะนั้นวันนี้เรามาดูกันว่า กัปตันทั้ง 7 คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนนั้นจะมีใครกันบ้าง เลื่อนลงไปดูได้เลย 1. จอห์น เทอร์รี – เชลซี นับตั้งแต่ เทอร์รี ...

นับจากวันนี้ไปเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 เดือน ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ก็จะเปิดฉากความมันส์ขึ้นแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เฉพาะผู้ชมอย่างเดียวเท่านั้นที่รอคอยดูอยู่อย่างใจจดใจจ่อ แต่บรรดานักฟุตบอลทั้งหลายเองก็เช่นเดียวกัน โดยเราจะเห็นได้ว่าช่วงนี้มีผู้เล่นเก่ง ๆ มากมาย ให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่า ต้องการลงสนามเพื่อโชว์ฟอร์มให้ได้มากที่สุด เพราะจะส่งผลต่อการตัดสินใจของกุนซือทีมชาติว่าจะยอมให้พวกเขาติดธงเป็นหนึ่งในขุนพลที่ได้เดินทางไปดินแดนหมีขาวด้วยกันกับคนอื่น ๆ หรือไม่ และในขณะที่มีตัวท็อปหลาย ๆ คนถูกการันตีแล้วว่ายังไงก็คงไม่พลาดแน่หากร่างกายฟิตสมบูรณ์ไม่เดี้ยงเสียก่อน ก็ยังมีผู้เล่นเก่ง ๆ อยู่อีกจำนวนหนึ่งซึ่งยังคงถูกมองข้ามจากบรรดาสต๊าฟโค้ช จนมีโอกาสที่จะไม่ได้ไปเล่นในทัวร์นาเมนต์สำคัญนี้อยู่เช่นกัน แต่ถึงกระนั้นหากสุดท้ายแล้วจะไม่ได้รับโอกาสจริง ๆ พวกเขายังเหลือไพ่ตายอยู่อีกหนึ่งใบสำหรับโอกาสงาม ๆ ของชีวิตครั้งนี้ ซึ่งก็คือ “การเปลี่ยนสัญชาติ” เพราะบางคนที่ถือสองสัญชาติอยู่ ณ เวลานี้ หากทีมหลักที่ตัวเองอยากเล่นให้ยังคงเมินอยู่จริง ...

สำหรับเกมฟุตบอลสมัยใหม่นั้น ถึงแม้ว่าการสาดบอลโด่งจากหลังขึ้นหน้าไปให้พวกแนวรุกวัดใจ วัดดวง ว่าจะสามารถทำประโยชน์อะไรจากจังหวะเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม การจะวางบอลยาวให้ได้ประสิทธิภาพนั้น คนเปิดเองก็ต้องมีทักษะที่ดีมาก ๆ เช่นกัน ไม่อย่างนั้นมันจะไปเอาอะไรไปลุ้นได้จากไหนอีก และด้วยประเด็นนี้ เราจึงอยากจะแนะนำสุดยอดนักเตะตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ที่มีการวางบอลยาวจากหลังขึ้นหน้าสุดฉมังราวกับเล่นเกมเครื่องเพลย์สเตชั่น ส่วนจะมีใครบ้างนั้นขอให้เลื่อนลงไปดูได้เลย

ผ่านไปแล้วสำหรับ สุดยอดนักเตะในตำแหน่ง มิดฟิลด์ และ กองหน้า วันนี้เรามาดูกันที่กองหลังบ้างว่าตลอดปี 2017 ที่ผ่านมานั้นมีใครทำผลงานได้โดดเด่นเหนือชาวบ้าน (และไม่ต้องสงสัยว่าพรุ่งนี้เป็นผู้รักษาประตูชัวร์ !) แน่นอนว่าลิสต์ของเรานั้นจะดูผลงานโดยรวมของทั้งสองฤดูกาล คือ 2016-17 (ครึ่งหลัง) กับ 2017-18 (ครึ่งแรก) มาประกอบกัน ฉะนั้นอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า เห้ย แล้วทำไมพวกเทพ ๆ ในซีซั่นนี้อย่าง ไคลน์ วอล์คเกอร์ ที่ว่ากันเป็นแบ็คขวาที่เก่งของโลก ณ เวลานี้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงไม่ติดทีม (ซึ่งก็มีเหตุผลในตัวของมัน) ทีนี้เราลองมาดูกันดีกว่ามีใครบ้างที่สมควรถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดกองหลังแห่งปี 2017 ที่ผ่านพ้นไป

จนถึงตอนนี้ก็ผ่านเข้ามาสู่ปี 2018 ไปเกือบหนึ่งสัปดาห์เต็มกันกันแล้ว ซึ่งโดยปกติก็จะต้องมีบทสรุปความสุดยอดในด้านต่าง ๆ ของวงการลูกหนังออกมาให้ได้เสพย์กัน ซึ่งวันนี้เราก็จัดประเดิมให้ทันทีหลังกลับมาจากวันหยุดยาว โดยนักเตะทั้ง 5 คนที่เรานำมาพูดถึงกันในบทความนี้คือสุดยอดมิดฟิลด์ที่มีฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมมากที่สุดตลอดปี 2017 ซึ่งแน่นอนว่าต้องนับรวมกับซีซั่นก่อนด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีใครบ้างนั้น ตามไปชม

ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ โลกแห่งฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะในเรื่องของค่าตัวนักเตะนั้น ต้องบอกว่าแตกต่างจากซีซั่นก่อนราวพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินไปเลย เพราะผู้เล่นระดับธรรมดา ๆ จะซื้อกันทีก็ต้องยอมจ่ายกันมาถึง 30 ล้านปอนด์เลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นสำหรับนักเตะในตำแหน่งที่ไม่ใช่ดาวเด่นอย่างกองหน้าหรือปีกที่มีสถิติการทำประตูมากมาย ก็ยังคงถูกประเมินค่าต่ำไปสักหน่อย ฉะนั้นพอมีใครในกลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ย้ายทีมด้วยมูลค่าสูง ๆ ทีนึงจึงมักจะถูกวิจารณ์ในทางลบไว้ก่อนแล้วว่า “ไม่คุ้ม” วันนี้เราเลยหยิบเอาผู้เล่นกองหลังทั้ง 7 คนที่มีค่าตัวสูงสุดของโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาให้ได้ทำความรู้จักกัน 8. ธิอาโก้ ซิลวา – 33 ล้านปอนด์ ย้ายจาก เอซี มิลาน ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สำหรับเซ็นเตอร์ตัวแกร่งชาวแซมบ้าคนนี้ ต้องบอกว่าเขาไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นักยามเล่นในระดับสโมสร เพราะแม้จะโดดเด่นและยิ่งใหญ่มากแค่ไหนยามสวมชุดแข่งสีเหลืองของทีมชาติบราซิล ...

คู่ไฮไลท์ประจำสัปดาห์นี้ของฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอย่างพรีเมียร์ ลีก ก็คือการเจอกันของ 2 ทีมดังอย่าง ลิเวอร์พูล ที่จะเปิดรังแอนฟิลด์ในย่านเมอร์ซี่ไซด์รับการมาเยือนของแชมป์เก่าอย่าง เชลซี

บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ของฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนั้นก็คือแชมป์เก่า เชลซี จะต้อนรับผู้มาเยือนสีแดงรองจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคู่ปิดท้ายพรีเมียร์ ลีก สัปดาห์นี้