กีฬาฟุตบอล

ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

skysports erik ten hag 5768831 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

เรียกได้ว่าทุลักทุกเลสุด ๆ สำหรับทัพปีศาจแดงภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ที่ผ่านเข้ารอบชิง เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ ด้วยการเบียดเอาชนะ โคเวนทรี ในการดวลลูกโทษจุดโทษ หลังจากที่เสมอกันในเวลา 120 นาทีด้วยสกอร์ 3-3 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำเอาเหล่า เร้ด เดวิลส์ โดนอาการไบโพล่าร์ถามหากันเลยทีเดียว

เกมดังกล่าวเกือบกลายเป็นเกมช็อคโลก โดยแม้ว่าพลพรรค ปีศาจแดง จะเป็นฝ่ายไล่ยำและนำห่าง โคเวนทรี ไปถึง 3-0 แถมยังเข้าสู่ช่วงท้ายเกม ซึ่งตอนแรกก็ดูเหมือนว่าเกมน่าจะขาดลอยไปแล้ว แต่ประตูตีไข่แตกของ เอลิส ซิมม์ส ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งมันกลายเป็นประตูที่ปลุก ช้างศึกกระทืบโรง กลับมาจากหลุมอีกครั้ง เพราะหลังจากนั้น โคเวนทรี ก็บุกแบบไม่มีอะไรจะเสียและมาได้ประตูผีจับยัดของ คัลลั่ม โอแฮร์

ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า กับการเปลี่ยนตัวมั่วจนเสียประตู

image 52 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

ก่อนที่สิ่งที่แฟน ผีแดง ไม่อยากให้เกิดก็มาเกิดขึ้นจนได้ เมื่อ อารอน วาน บิสซาก้า มาทำแฮนด์บอลเสียจุดโทษในช่วงโทษเวลาบาดเจ็บ ซึ่งมันคือการเสียจุดโทษในช่วงท้ายปลายแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งการถอด การ์นาโช่ กับ ไมนู ออกตั้งแต่ไก่โห่ เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งนี้ การที่ เอริค เทน ฮาก ถอด อเลฮานโดร การ์นาโช่ ออกในนาทีที่ 66 แล้วส่ง อันโตนี่ ลงมาเล่นแทน ซึ่งในแง่ของการเอา อันโตนี่ ลงมานั้น อันที่จริงก็ไม่ผิดแปลกอะไร หากจะมองไปที่การเติมความสดให้กับเกมริมเส้น

อย่างไรก็ตามการเลือกถอด การ์นาโช่ ออก แล้วเก็บ มาร์คัส แรชฟอร์ด เอาไว้ ทั้งที่ตลอดทั้งเกมแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับทีม จังหวะเล่นร่วมสวยๆแทบไม่มี แบ็คอย่าง วาน บิสซาก้า วิ่งอ้อมหลังเติมไปรับบอล นับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็แทบจะตีรถเปล่ากลับบ้านทุกเที่ยวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้เมื่อ เทน ฮาก ถอด การ์นาโช่ ออกจากสนามเมื่อไหร่ มักจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเสียประตู หรืออาจถึงขั้นเสียผลการแข่งขันเลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดนี้ เทน ฮาก เจ็บไม่จำจริงๆ

นำ เชลซี 3-2 เปลี่ยน การ์นาโช่ ออก จบเกม แพ้ เชลซี 4-3

นำ ลิเวอร์พูล 2-1 เปลี่ยน การ์นาโช่ ออก จบเกม เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2

นำ โคเวนทรี 3-0 เปลี่ยน การ์นาโช่ ออก จบ 120 นาที เสมอ โคเวนทรี 3-3

นี่คือสกอร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อมี อเลฮานโดร การ์นาโช่ อยู่ในสนาม และหลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวออก สกอร์จึงกลายเป็นแบบนี้ ซึ่งเกมล่าสุดหลังจากที่ การ์นาโช่ โดนถอดออก เพียงแค่ 5 นาที โคเวนทรี มาได้ประตูไล่มา 3-1 ซึ่งสกอร์ยังถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปรียบอยู่ จากระยะห่าง 2 ประตู แม้ว่าจะเกิดรอยรั่วในแผงเกมรับ แต่หากปรับแก้เกมให้ตรงจุดก็เชื่อว่าจะสามารถปิดเกมนี้ได้ไม่ยาก

แม็คโทมิเนย์ ลูกรัก ไม่เคยให้พักถ้าไม่พิการ

image 53 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

แต่ทว่าหลังจากเสียประตูดังกล่าว เอริค เทน ฮาก ตัดสินใจถอด ค็อบบี้ ไมนู ออกจากสนามทันที และส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น ลงมาแทน ซึ่งคนที่ควรจะต้องโดนถอดออกก็คือ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่แทบจะไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับทีมมากไปกว่านั้นเลย นอกจากประตูแรกที่ชาร์จจ่อๆให้ แมนยู ออกนำ 1-0

เท่านั้นยังไม่พอจากจังหวะการเสียประตูที่ 2 ที่มาจากลูกยิงไกล ซึ่งดูเบื้องต้นอาจดูเหมือนโชคร้ายจากการที่บอลแฉลบเปลี่ยนทางเข้าประตู แต่อันที่จริง หากย้อนดูพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ แม็คทอม แบบเต็มๆ แต่เจ้าตัวกลับได้แค่ยืนมองนักเตะของ โคเวนทรี ล่อเป้าแบบง่ายๆ จนเสียประตูในที่สุด ซึ่งทั้ง แรชฟอร์ด และ แม็คทอม หากไม่เจ็บไปเสียก่อน ก็เชื่อว่า เทน ฮาก คงจะให้อยู่จนจบ 120 นาที ด้วยซ้ำ

หลังจบเกมมีคลิปที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เดินโขยกเขยกออกจากสนาม ซึ่งก็ต้องมาดูว่าจะรุนแรงขนาดไหนและต้องพักนานเท่าไหร่ แต่เชื่อว่า แฟนผีหลายๆคน คงอยากให้ แรชฟอร์ด ไปพักผ่อนแบบยาวๆ มากกว่าการต้องทนดูจังหวะนรกของเจ้าตัวในสนาม

ท่ามกลางความบัดสี แต่ก็ยังมีดีให้เห็น

image 54 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

อย่างไรก็ตามจากชัยชนะอันน่าผิดหวังของพลพรรค ปีศาจแดง ก็ยังคงมีผู้เล่นบางส่วนที่มุ่งมั่นเล่นเพื่อทีมจนวินาทีสุดท้าย และสมควรได้รับเครดิต เริ่มจากคนแรก อ็องเดร โอนาน่า ที่เป็นฮีโร่ในช่วงของการดวลจุดโทษ จากการเซฟไป 1 ครั้ง และกดดันนักเตะของ โคเวนทรี จนยิงออกไปเองอีก 1 ครั้ง

สำหรับสถิติของ โอนานา ในเกมกับ โคเวนทรี
62 สัมผัสบอล
42/52 ผ่านบอลสำเร็จ (81%)
1 เคลียร์บอล
3 ตัดบอลนอกกรอบ
2 เซฟ
1 เซฟจุดโทษ

หลังจบเกมนายด่านชาวแคมเมอรูน กล่าวถึงชัยชนะอันทุลักทุเลของพลพรรค ปีศาจแดง เหนือ โคเวนทรี ว่า

“มันมีความรู้สึกหลายอย่างมากๆในเกมนี้ แต่เราผ่านมันไปได้ นั่นคือสิ่งสำคัญ มันเป็นเกมที่เราต้องมาลำบากกันในช่วงท้าย ก่อนหน้านั้นเราคุมเกมได้ แต่หลังจากนั้น ความผิดพลาดส่วนบุคคลก็เกิดขึ้น และเราเสียไปถึง 3 ประตู แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญสุดคือชัยชนะ แค่นั้นเลย เราต้องมองต่อไปยังเกมข้างหน้า”

ขณะที่ผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่ไม่ว่าใครจฟอร์มเป็นอย่างไร แต่สำหรับเขาคนนี้ ยังคงเป็นคนสำคัญของ แมนฯยู อยู่เสมอ นั่นก็คือกัปตันทีมอย่าง บรูโน่ แฟร์นานเดส เจ้าของรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมกับ โคเวนทรี ที่ยิงประตูที่ 3 ให้กับทีม พร้อมกับช่วยทีมได้ในหลายๆจังหวะด้วยการเคลื่อนที่ไปแทบจะทุกตารางนิ้วของสนามเลยก็ว่าได้

สถิติของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ในเกมกับ โคเวนทรี
123 สัมผัสบอล
85/100 ผ่านบอลสำเร็จ (85%)
3 เข้าปะทะ
9 คีย์พาส
1 สร้างโอกาสทอง
1 ยิงชนคาน
1 ยิงตรงกรอบ
1 ประตู
1 แอสซิสต์

หันมามองที่แนวรับ ท่ามกลางวิกฤตผู้เล่นแนวรับบาดเจ็บ ปีศาจแดง ก็ยังสามารถพึ่งพา แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เรียกฟอร์มและเรียกความฟิตกลับมาทันเวลา หลังจากที่มีรายงานว่า เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บและแทบไม่ได้ซ้อมกับทีมเลย อีกทั้งร่างกายก็ยังไม่สมบูรณ์ด้วย แต่ด้วยสถานการณ์ที่ทีมไม่เหลือเซ็นเตอร์แบ็ค ทำให้ แม็กไกวร์ จำเป็นที่จะต้องลงสนามช่วยทีม และสุดท้าย แม็กไกวร์ ก็แบกเกมรับของทีมและกัดฟันสู้เพื่อทีมจนครบ 120 นาที แม้ว่าจะเสียถึง 3 ประตู ในเวลาปกติ แต่หากมาดูสถิติส่วนตัวของ แม็กไกวร์ ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว

image 55 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

สถิติของ แม็กไกวร์
124 สัมผัสบอล
6 เคลียร์บอล
2 บล็อกลูกยิง
2 เข้าปะทะ
3/3 ดวลตัวต่อตัวชนะ
5/8 ดวลกลางอากาศชนะ
91/104 ผ่านบอลแม่นยำ (88%)
1 สร้างโอกาส
1/1 เลี้ยงบอลสำเร็จ
2 ยิงตรงกรอบ
1 ประตู

จากสถิติจะเห็นได้ว่า แม็กไกวร์ เด่นสุดๆในแผงเกมรับ อีกทั้งยังมีจังหวะที่เจ้าตัวลากบอลขึ้นไปยิงเองอีกต่างหาก ซึ่งมาถึงตรงนี้คำสบประมาทที่ถามโถมเข้าหาเจ้าตัวในอดีตก็แทบจะถูกลบล้างไปแล้วทั้งสิ้น และไม่อยากจะคิดเลยว่า หากฤดูกาลนี้ ไม่ได้ แม็กไกวร์ ร่างปัจจุบัน ช่วยทีมเอาไว้ในสถานการณ์คับขัน สภาพของทีมจะออกมาเป็นอย่างไร โดยหลังจบเกมปราการหลังชาวอังกฤษ กล่าวถึงผลงานของทีมที่ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันว่า

“สโมสรต้องมาก่อนเสมอ สัปดาห์นี้ผมไม่ได้ลงซ้อมเลย เราไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยในตอนนี้ บางทีอาจเป็นพรุ่งนี้เช้า ที่เราตื่นมาแล้วถึงจะนึกได้ว่าเราเข้ารอบชิงได้แล้ว มันเป็นเกมที่ผมรู้สึกว่าพิลึกจริงๆ คืนนี้ถ้าเราแพ้มันคงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เลย”

บทสัมภาษณ์เดิมๆ เพิ่มเติมคือความน่าผิดหวัง

image 56 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

ปิดท้ายที่บทสัมภาษณ์สุดสวยหรูของ เอริค เทน ฮาก ที่ฟังกันจนเบื่อ แต่ก็อยากให้ทุกคนได้ฟังกันอีก เพราะกลัวว่าหลังจบฤดูกาลนี้จะไม่ได้ฟังกันอีก

“มันเป็นเกมที่น่าเหลือเชื่อมากและประหลาดอีกด้วย เราควบคุมไว้ได้มาตลอด กระทั่งปล่อยให้มันเกิดขึ้นในช่วงท้าย เรายังแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและยืดหยุ่นในการเป็นผู้ชนะยิงจุดโทษด้วย ไม่เลย ผมไม่รู้สึกแบบนั้น สุดท้ายแล้ว มันเป็นเรื่องของความสำเร็จ”

“เรามองเห็นความผิดพลาดได้ แต่มันไม่ใช่ความลำบากใจ สุดท้ายแล้วมันคือความสำเร็จผมอยากคว้าแชมป์ ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสดีที่จะคว้าแชมป์ แม้ว่าเราจะต้องเจอกับทีมที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง ซิตี้ ก็ตาม แต่ถึงยังไงเราก็ยังมีโอกาส เราแสดงให้เห็นแล้วในฤดูกาลนี้”

เชื่อว่ามาถึงตรงนี้ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมงานหลังบ้านชุดใหม่อย่าง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ , เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด คงได้เห็นกันอย่างเต็มตาในสิ่งที่ เอริค เทน ฮาก ลงมือทำลงไปในเกมนัดนี้ กับการที่ออกนำทีมลีกรองอย่าง โคเวนทรี 3-0 แต่ไม่สามารถปิดเกมได้ อีกทั้งยังแก้เกมแบบมั่วซั่ว เล่นดีเอาออก เล่นกระจอกเก็บไว้ จนเป็นที่มาของการโดนตามตีเสมอ 3-3 ซึ่งก็เกือบจะโดนน็อค 4-3 ในช่วงท้ายของการต่อเวลาด้วยซ้ำ

ถึงตอนนี้ แฟนผี ก็น่าจะได้คำตอบกันแล้วสำหรับอนาคตของ เอริค เทน ฮาก ที่แม้ว่าจะพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาเกือบ 1 ฤดูกาลที่ผ่านมา ที่แทบจะไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะถอยหลังลงคลองมากกว่าเดิม ซึ่งก็ต้องมาตามกันต่อหลังจบฤดูกาลว่า ทางฝ่ายบริหารจะตัดสินอนาคตของ เทน ฮาก อย่างไร

หนทางเดียวที่จะได้ต่ออายุงานใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

image 57 - ชัยชนะที่ไร้ความหมาย..ฟางเส้นสุดท้าย ของชายที่ชื่อ เอริค เทน ฮาก

ทั้งนี้ว่ากันหนทางเดียวของ เอริค เทน ฮาก ที่จะต่ออายุงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของตัวเองก็คือต้องโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตึ้ พร้อมกับคว้าโทรฟี่ เอฟเอ คัพ มาครองให้ได้ เพราะอย่างน้อย เทน ฮาก ก็ยังมีความชอบธรรมในการอยู่ต่อ จากการพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 ปีติดต่อกัน แม้ว่าอาจจะไม่มีใครการันตีก็ตาม

ซึ่งหากมาดูสถิติของกุนซือชาวดัตช์ในการพาทัพ ปีศาจแดง ทำศึกผ่าเมืองกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผลปรากฏว่า เทน ฮาก พา ยูไนเต็ด ดวลกับ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นจำนวน 5 เกม เก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียว และแพ้ เรือใบสีฟ้า ไป 4 เกม อย่างไรก็ตามการพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว น่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ เทน ฮาก ได้อยู่ในตำแหน่งจนถึงตอนนี้

โดยเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เวอร์ชั่น แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ในซีซั่นนี้สิ่งเดียวที่ ยูไนเต็ด ดูเหนือกว่าคู่ปรับร่วมเมือง ก็คือสถิติในอดีตที่ผ่านมาที่พลพรรค ปีศาจแดง ครองแชมป์ เอฟเอ คัพ มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวน 12 ครั้ง ตามหลังอันดับ 1 อย่าง อาร์เซน่อล ที่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ไป 14 สมัย ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองแชมป์ไปทั้งสิ้น 7 ครั้ง

สุดท้ายหากมาดูที่สถิติและภาพรวมของ เอริค เทน ฮาก นับตั้งแต่เข้ามารับงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2022 เจ้าตัวคุมทีมไปทั้งสิ้น 107 นัด ชนะ 62 นัด เสมอ 16 และแพ้ถึง 29 เกม ค่าเฉลี่ยการเก็บชัยชนะอยู่ที่ 57.94 เปอร์เซนต์ ซึ่งนับว่าน้อยมากๆ ในเหล่าบรรดาบิ๊กทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

จากสีหน้าสีตาของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ กับ อัฟราม เกลเซอร์ สองผู้ถือหุ้นใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เข้ามาชมเกม เอฟเอ คัพ กับ โคเวนทรี แม้สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ดูเหมือนว่าน่าจะได้คำตอบอะไรบางอย่างแล้ว สำหรับอนาคตของกุนซือ แมนฯ ยู คนปัจจุบันที่กำลังจะกลายเป็นอดีตอย่าง เอริค เทน ฮาก

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: