คริสเตียโน โรนัลโด้ สุดยอดนักเตะอันดับหนึ่งของโลก ณ เวลานี้ เป็นที่รู้กันมานานว่าแอบมีความเอาแต่ใจอยู่เล็ก ๆ เวลาเล่นฟุตบอล ซึ่งเราจะเห็นได้จากแอ็คชั่นในจังหวะต่าง ๆ ซึ่งหากไม่คิดอะไรมากก็ถือเป็นสีสันและความน่ารักอย่างหนึ่งได้เช่นกัน

แต่ก็มีบางครั้งที่การแสดงออกของเขามันดูเหมือนจะเยอะเกินไป โดยเฉพาะเวลาโมโหเพื่อนร่วมทีม ซึ่งทั้ง 5 จังหวะดังกล่าวที่เรานำมาเสนอให้ได้ดูกันนั้น คือช็อตที่เรียกว่ามากสุด ๆ แล้ว แต่สาเหตุคืออะไร แล้วสมควรไหมที่ จะเดือดจนออกอาการขนาดนั้น ไปดูและช่วยกันตัดสินที ! CR7

1. นานี ขโมยซีน แต่ทำพัง

ย้อนกลับไปในปี 2010 ที่ ทีมชาติโปรตุเกส อุ่นเครื่องชนะ ทีมชาติสเปน ไปได้ด้วยสกอร์ถล่มทลาย 4-0 โรนัลโด้ โชว์ทักษะหลอกล่อกองหลังกระทิงดุจนเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจตักบอลโด่งข้ามตัวผู้รักษาประตูไปที่เสาสอง

จังหวะนั้น บอลกำลังจะลอยข้ามเส้นไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเจ้าอาบัง หลุยส์ นานี่ ปรี่มาจากไหน กระโดดโหม่งบอลที่กำลังจะเป็นประตูของ โรนัลโด้ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างสะใจพี่เขาล่ะ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาที ความดีใจก็กลับกลายเป็นความโมโห ! เพราะผู้กำกับเส้นยกธงว่า นานี วิ่งมาเขกบอลจากตำแหน่งล้ำหน้า ซึ่งหากลูกนี้ปล่อยให้มันเข้าไปตั้งแต่ที่ โรนัลโด้ ยิง ก็จะได้บวกสกอร์เพิ่มแน่นอน ซึ่งคนยิงก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกอาการอย่างแรงกลางสนามแข่งจน อาบังของเราต้องหาทางขอโทษอย่างหนักกันเลยทีเดียว

2. ผลักอก เป๊ป กวาร์ดิโอลา

ช็อตที่ 2 ของลิสต์นี้ก็เกิดขึ้นในปี 2010 เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นระหว่างเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์อย่าง เอล กลาซิโก ที่ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลนา ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกด้วย

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเกมระดับจักรวาล เอล กลาซิโก แน่นอนว่าดีกรีความดุเดือดนั้นจะต้องสูงจนทะลุขีดจำกัด แม้แต่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ดาวเตะผู้ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ มาแล้วมากมายยังถึงกับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่

โดยจังหวะดังกล่าวคือตอนที่บอลไหลออกข้างไปเข้าทาง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมเจ้าบุญทุ่มในขณะนั้น ก่อน เป๊ป จะกระดกบอลขึ้นมาไว้ในมือ แล้ว โรนัลโด้ ที่รีบเล่นก็พยายามจะไปเอาบอลมาทุ่ม แต่กุนซือจอมเกาหัวไม่ยอมให้ง่าย ๆ จึงถูก ปีกจอมสับของ ราชันย์ชุดขาวผลักอกแบบเอาเรื่อง

หลังจากนั้น นักเตะของทั้งสองทีมก็เข้ามาโวยวาย ผลักอกกันไปมาเหมือนกับพร้อมจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ทุกเมื่อ ซึ่งทำให้เกมต้องหยุดไปพักใหญ่เลยทีเดียว

3. ถูก อาร์เบลัว แย่งยิง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้เองจากเกม เรอัล มาดริด ถล่ม อัลเมเรีย ด้วยสกอร์ 3-0 โดยประตูดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 85 ซึ่ง โรนัลโด้ กำลังจะได้มีชื่อขึ้นไปอยู่บนสกอร์บอร์ดกับเขาบ้าง เพราะเพื่อนถวายพานมาให้หน้าปากประตูโล่ง ๆ แบบที่ไม่มีกองหลังฝ่ายตรงข้ามคอยป้องกัน

แต่แล้วเจ้ากองหลังฝ่ายเดียวกันอย่าง อาร์เบลัว นี่แหละที่เป็นตัวแสบ แอบพุ่งตัดหน้ามาชาร์จบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายแบบสุดช็อค ซึ่งแน่นอนว่าบรรดาแข้ง เรอัล มาดริด นั้นต้องฉลองประตูกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม พอกลับมาดูภาพช้าก็จะเห็นว่า โรนัลโด้ หวดบอลกลับเข้าไปใส่ตาข่ายอีกครั้งด้วยความเซ็ง เพราะดันโดนเพื่อนแย่งยิง แถม อาร์เบลัว ยังให้สัมภาษณ์หลังเกมอีกด้วยว่า ไม่คิดจะไปขอโทษหรอกนะกับเรื่องแค่นี้

4. โดน เมสซี ยิง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเกม เอล กลาซิโก ระหว่างกับ บาร์เซโลนา (อีกแล้ว) แถมยังเป็นการเจอกันที่ ซานติอาโก เบอร์นาบิว บ้านของทีม ราชันย์ชุดขาวอีกด้วย

หลังเสียงนกหวีดเริ่มแข่งขันของเชิ้ตดำดังขึ้น กาเซมิโร ก็จัดการซัดให้เจ้าถิ่นนำก่อนตอนนาทีที่ 23 ก่อนที่ บาร์ซา จะยิงตีเสมอได้จาก เมสซี ในอีก 10 นาทีต่อมา แล้วพอถึงครึ่งหลังนาทีที่ 75 อิวาน ราคิติช นั้นซัดแซงให้ บาร์ซา เป็น 2-1 แล้ว ฮาเมส โรดริเกวซ ก็ยิงตีเสมอให้ มาดริด ได้เป็น 2-2 ตอนนาทีที่ 85

และในขณะที่หลายคนเชื่อว่าเกมนี้น่าจะจบลงด้วยการเสมอ แบ่งแต้ม แล้วแยกย้าย แต่เจ้าหนูมหัศจรรย์ ลีโอเนล เมสซี ไม่คิดอย่างนั้น จัดการสอยประตูชัยให้ผู้มาเยือนได้ตอนนาทีที่ 90+2 แบบสุดเหลือเชื่อ

ซึ่งทำให้ CR7 ของเราถึงกับหัวเสียแบบสุด ๆ จนแสดงออกมาผ่านทั้งหน้าตาและภาษากายแบบไม่มีปิดบังเลยทีเดียว

5. เขวี้ยงไมค์นักข่าวลงน้ำ

ช็อตเด็ดเผ็ดร้อนอันนี้เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันศึกฟุตบอล ยูโร 2016 ที่ผ่านมานี้เอง โดย ผู้สื่อข่าวจาก MCTV ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ โรนัลโด้ มานานนั้นปรี่เข้ามาถามพระเอกของเราถึงการเตรียมความพร้อมก่อนพา โปรตุเกส ชนกับ ฮังการี ในนัดชี้ชะตารองแบ่งกลุ่ม

แต่ไม่รู้ว่า โรนัลโด้ นั้นไปกินรังแตนที่ไหนมา ปรี๊ดแตก ฉุนกึ๊ก แย่งไมค์ออกมาจากมือก่อนจะเขวี้ยงมันลงน้ำไป โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งสิ้น ซึ่งผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า

“ผมไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ถามถึงความพร้อมก่อนเจอ ฮังการี เท่านั้น นอกจาก โรนัลโด้ จะไม่ยอมตอบแล้วยังโยนไมค์ลงน้ำไปอีก แต่ผมจะไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะเขาเป็นฝ่ายกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร และเราจะต้องเจอกันในการทำงานอีกแน่”