เมื่อพูดถึงกีฬาฟุตบอล แน่นอนว่าความรู้สึกของคนทั้งโลกจะเห็นภาพเป็น ผู้ชายร่างกายบึกบึน กล้ามเป็นมัด ๆ วิ่งไล่เตะลูกหนังกันราวกับนักรบทำสงครามอยู่บนสนามรบ ด้วยความรู้สึกถึก แกร่ง แมน ขนาดนี้ (แม้จะมีผู้หญิงเล่นด้วยก็ตาม) ทำให้เราไม่ค่อยคิดว่าพวกเขาก็มีมุมอ่อนแอเหมือนกับมนุษย์ปกติทั่วไป ฉะนั้นวันนี้เราจึงหยิบเอามุมเล็ก ๆ ที่อาจจะไม่ได้เห็นกันบ่อยมากนักอย่าง ช็อตร้องไห้ ของเหล่าแข้งระดับซูเปอร์สตาร์มาให้ดูกัน จะมีใครบ้างนั้น เลื่อนลงไปชมกันได้เลย

เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน มหกรรมลูกหนังครั้งใหญ่สุดที่ทุกคนรอคอยอย่าง ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ก็จะเปิดฉากความมันส์ขึ้นแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่แฟน ๆ อยากเห็นมากที่สุดนอกจากทีมชาติไหนจะเป็นแชมป์แล้วก็คือ นักเตะคนใดจะระเบิดฟอร์มแจ้งเกิดขึ้นมาเป็นตัวท็อปได้นั่นเอง เพราะในอดีตที่ผ่าน ๆ มา เราจะเห็นได้ว่าทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ แบบนี้มักจะมีทีมม้ามืด และนักเตะที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้จักแต่กลับทำผลงานได้ไม่แพ้บรรดาแข้งระดับโลก จนสุดท้ายหลังจบการแข่งขัน พวกเขาถูกสโมสรใหญ่ ๆ ตามจีบอย่างหนักจนได้ย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล และนี่ก็คือ 5 นักเตะที่เคยระเบิดฟอร์มเทพในศึกฟุตบอลโลก จนได้ย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่มาแล้วหลังจบทัวร์นาเมนต์

คริสเตียโน โรนัลโด้ สุดยอดนักเตะอันดับหนึ่งของโลก ณ เวลานี้ เป็นที่รู้กันมานานว่าแอบมีความเอาแต่ใจอยู่เล็ก ๆ เวลาเล่นฟุตบอล ซึ่งเราจะเห็นได้จากแอ็คชั่นในจังหวะต่าง ๆ ซึ่งหากไม่คิดอะไรมากก็ถือเป็นสีสันและความน่ารักอย่างหนึ่งได้เช่นกัน แต่ก็มีบางครั้งที่การแสดงออกของเขามันดูเหมือนจะเยอะเกินไป โดยเฉพาะเวลาโมโหเพื่อนร่วมทีม ซึ่งทั้ง 5 จังหวะดังกล่าวที่เรานำมาเสนอให้ได้ดูกันนั้น คือช็อตที่เรียกว่ามากสุด ๆ แล้ว แต่สาเหตุคืออะไร แล้วสมควรไหมที่ จะเดือดจนออกอาการขนาดนั้น ไปดูและช่วยกันตัดสินที ! CR7

ฟุตบอลสเปนคู่ที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงในสัปดาห์นี้จนได้ เรอัล มาดริด จะเปิดสนาม ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว ลงดวลแข้งในศึก เอล กลาซิโก้ กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ซึ่งผลแพ้ชนะครั้งนี้มันจะส่งผลสู่การเข้าวินเป็นแชมป์ในบั้นปลายของทั้งคู่อีกด้วย

  เอล กลาซิโก้ มหากาพย์ชิงบัลลังค์ลาลีก้า ภาคแรกประจำฤดูกาลจะเป็นการที่ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด

ศึกแห่งศักดิ์ศรีและถือว่าเป็นสุดยอดแมตช์ประจำสัปดาห์สำหรับ ฟุตบอล ลีกทั่วโลกเพราะเป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ที่เรียกกันว่า “เอล กลาซิโก้”