กีฬาบทความฟุตบอล

พระเจ้า ลูกหนัง และพรสวรรค์ ริคาร์โด้ กาก้า

Ricardo Kaka

กาก้า คือผู้เล่นตัวรุกคนหนึ่งที่เคยร่ายเวทมนต์ลูกหนังไว้บนผืนหญ้า เขาเป็นนักเตะที่ผสมผสานระหว่างพละกำลังกับเทคนิคฟุตบอลจนออกมาเป็นทักษะการเล่นที่งดงามและมีประสิทธิภาพ

ระยะทางจากเมืองเซา เปาโล ถึงสนาม ซาน ซิโร่ แห่งมิลาน จนตลอดอาชีพพ่อค้าแข้ง อาจจะมีนักเตะเพียงไม่กี่คนบนโลกนี้ที่รังสรรค์ผลงานได้เช่นเขา

จุดเริ่มต้นขอกาก้า

กาก้า เกิดในเมืองกามา ประเทศบราซิล ครอบครัวตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า กาก้า เนื่องจากน้องชายของเขาไม่สามารถออกเสียงคำว่า “ริคาร์โด้” ได้นั่นเอง

WP IMAGE FOOTBALL HISTORY KAKA 01 300x192 - พระเจ้า ลูกหนัง และพรสวรรค์ ริคาร์โด้ กาก้า

กาก้า เข้าร่วมฝึกฝนฟุตบอลในทีมเยาวชน เซา เปาโล ตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ โดยการลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกของเขาได้รับการบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร

มันเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย Tornio Rio-Sao Paulo โดย กาก้า ลุกจากม้านั่งสำรองลงมายิงสองประตูในสองนาทีให้ทีมเอาชนะทีม โบตาโฟโก้ 2-1 ช่วยให้ เซา เปาโล คว้าแชมป์ครั้งแรกและครั้งเดียวของสโมสรในถ้วยใบดังกล่าว

พออายุ 18 ปี กาก้า ได้รับบาดเจ็บที่หลังจากอุบัติเหตุขณะว่ายน้ำ ซึ่งส่งผลคุกคามต่อการเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพ แต่การพักฟื้นตัวราวกับได้รับการรักษาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า ทำให้เขาย่างก้าวบนถนนลูกหนังต่อไป

การเดินทางสู่เมืองมิลาน

หลังจากผ่านสามฤดูกาล กาก้าทำประตูให้ทีม 47 ประตู จากนั้นเขาตัดสินใจกล่าวอำลาสโมสรเซา เปาโล เพื่อเดินทางไปยังอิตาลี เพื่อเข้าร่วมทีมเอซี มิลาน ในปี 2003 โดยมีค่าธรรมเนียมในการโอนย้ายครั้งนั้นเพียง 8.5 ล้านยูโร

WP IMAGE FOOTBALL HISTORY KAKA 02 300x200 - พระเจ้า ลูกหนัง และพรสวรรค์ ริคาร์โด้ กาก้า

ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เขาสามารถมีชื่ออยู่ในทีมชุด 11 คนแรกของ “ปีศาจแดงดำ” ซึ่งต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับ รุย คอสต้า ยอดเพลย์เมกเกอร์ระดับตำนานเซเรียอา ชาวโปรตุเกส

กาก้า ถูกมอบหมายให้ยืนในตำแหน่งด้านหลังของ อังเดร เชฟเชนโก้, ยอน ดาห์ล โทมัสสัน และฟิลิปโป้ อินซากี้ เหล่าศูนย์หน้าของทีม และผลงานจาก 10 ประตู รวมถึงการแอสซิสต์ของเขาในฤดูกาลนั้น ก็มีส่วนช่วยให้ถ้วยแชมป์สคูเด็ตโต้ถูกยกมาประดับไว้ในตู้โชว์ของ เอซี มิลาน

กาก้า ยังสร้างผลงานโดดเด่นในฤดูกาลต่อ ๆ มา โดยฤดูกาล 2006/07 มาตรฐานการเล่นที่น่าชื่นชม ซึ่งประตูที่เขาทำได้ ณ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด คือ 1 ประตูจาก 10 ประตูในเกมยุโรป ช่วยให้ เอซี มิลาน เถลิงบัลลังก์แชมป์ยูซีแอล สำเร็จ ทั้งนี้ กาก้า ยังถูกประกาศให้ครองรางวัลบัลลง ดอร์ ในปี 2007 จนเขาถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานั้น

อากาศบาดเจ็บพรากผลงานในนามทีมชาติ

ช่วงเวลาของ กาก้า กับทีมชาติบราซิลนั้นคล้ายการนั่งรถไฟเหาะที่มีช่วงพุ่งทะยานสูงและการตกดิ่งลง

WP IMAGE FOOTBALL HISTORY KAKA 03 300x197 - พระเจ้า ลูกหนัง และพรสวรรค์ ริคาร์โด้ กาก้า

กาก้า มีส่วนช่วยให้ทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์คอนเฟเดอเรชั่นสองหน เวลานั้นทัพ “แซมบ้า” อุดมด้วยสี่แนวรุกอันน่าเกรงขาม ทั้ง โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่,อาเดรียโน่ และกาก้า มันกลายเป็นความสยองสำหรับแนวรับทุกทีมในโลก

อย่างไรก็ตาม กาก้า พลาดเกมทีมชาติบ่อยหนเนื่องจากจากอาการบาดเจ็บที่เป็นอุปสรรคต่อการบันทึกจำนวนถ้วยรางวัลกับทัพ “เซเลเซา กาก้า อยู่ในทีมชุดแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2002 แต่เขามีโอกาสลงเล่นเพียง 25 นาที ตลอดทั้งทัวร์นาเม้นต์

การเดินทางครั้งใหม่สู่ซานติอาโก เบร์นาเบว

WP IMAGE FOOTBALL HISTORY KAKA 04 300x208 - พระเจ้า ลูกหนัง และพรสวรรค์ ริคาร์โด้ กาก้า

ในวัย 27 ปี กาก้า เดินทางมาถึงรังซานติอาโก เบร์นาเบว ในช่วงฤดูร้อน มันคือช่วงเดียวกลับที่ เรอัล มาดริด ได้สร้างเหล่าผู้เล่นชุด “กาลาติกอส” ซึ่งอุดมด้วยดังระดับโลก และผลงานกับ เรอัล มาดริด ของกาก้า ก็ได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างน่าจดจำ แม้ฟอร์มค่อนข้างดรอปลงจากช่วงเวลาที่ เอซี มิลาน แต่จำนวน 29 ประตู กับ 32 แอสซิสต์ จาก 120 เกม อาจเรียกได้ว่าไม่หวือหวานัก แต่มันเป็นผลงานที่ไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน

กาก้า ช่วย “ราชันชุดขาว” คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2011-12 และแชมป์โกปา เดลเรย์ ในฤดูกาล 2010-11 เขาแยกทางกับเรอัล มาดริด โดยกลับมาเล่นที่เอซี มิลาน อีกหนึ่งฤดูกาล จากนั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านหลังเก่านั่นคือเซา เปาโล โดยเล่นอยู่ในทีมชุดเดียวกับ ปาโต้ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เอซี มิลาน แต่ก็อยู่ที่นั่นเพียงปีเดียว เขาก็โยกย้ายอีกครั้ง โดยเข้าร่วมทีม โอแลนโด้ ซิตี้ ในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ในปี 2015

ช่วงบั้นปลายอาชีพของกาก้า

WP IMAGE FOOTBALL HISTORY KAKA 05 300x151 - พระเจ้า ลูกหนัง และพรสวรรค์ ริคาร์โด้ กาก้า

ช่วงเวลาการค้าแข้งที่อเมริกา กาก้า มีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้งจนไม่สามารถอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด ด้วยสภาพความฟิตที่ไม่ค่อยสมบูรณ์แต่เขาก็ยังแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงพรสวรรค์แม้จะอยู่ในช่วงปลายอาชีพ  โดยบันทึกสถิติ 24 ประตู 22 แอสซิสต์ จาก 75 เกมในสามฤดูกาล

เขาปฏิเสธข้อเสนอที่ต้องการตัวจากทีมเก่าอย่างเซา เปาโล และเอซี มิลาน ก่อนตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2007
ความสามารถเอกอุของ กาก้า ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ซึ่งรวมไปถึงยอดนักเตะรุ่นพี่ และอดีตแข้งผู้ยิ่งใหญ่ของโลกฟุตบอล

คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตโค้ช เอซี มิลาน เล่าว่า “ครั้งแรกที่เห็นเด็กคนนี้ ผมแซวเขาเล่นว่าเขาควรกลับไปเรียนหนังสือ วันแรกเขาสวมแว่นตาพร้อมเสื้อเชิ้ต ที่ดูไม่มีสไตล์เลย แล้วทั้งทีมก็ขำเขา

“ไม่กี่นาทีถัดมา พวกเราลงซ้อม เขาหลบทุกคนที่ขวางหน้า แม้แต่ กัสตูโซ่ ยังสไลด์ไม่โดนเขา ที่ตลกคือ เขาทำแบบนั้นทุกการซ้อม”

“เขาเหมือนมีเวทย์มนต์ในสนาม ไม่ว่าใครเจอเขา เขาสามารถเลี้ยงหลบราวกับว่าเขาเลี้ยงหลบกรวย”

ซีเนอดีน ซีดาน เรียก กาก้า ว่าเป็น “พรสวรรค์ที่หายาก” เปเล่ กล่าวถึงแข้งรุ่นลูกคนนี้ว่า “ผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ และในฐานะนักเตะหมายเลข 10 ทีมชาติบราซิล เราต่างไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีก ระยะทางเริ่มจากเมืองเซา เปาโล จนถึงสนามซาน ซิโร่ และ ณ ที่อื่นๆ เขาเป็นนักเตะที่ผสมผสานระหว่างพละกำลังกับเทคนิคฟุตบอลจนออกมาเป็นทักษะการเล่นที่งดงามและมีประสิทธิภาพอันกลมกล่อม และสิ่งสำคัญ มันเป็นเรื่องยากที่จะหาใครทำได้ เช่น “กาก้า

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: