สำหรับคนที่มีอาชีพนักฟุตบอลนั้น โดยปกติแล้วพวกเขาจะเริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งของตัวเองด้วยการเซ็นสัญญาครั้งแรกกันตอนอายุ 17 ปี หากใครเก่งหน่อยก็จะโด่งดังได้ก่อนอายุ 20 อย่างช้าคือไม่น่าเกิน 25 ปี เพราะหลังจากนั้นไปถือว่าเข้าสู่ช่วงเลเวลตันกันแล้ว

และหลังจากผ่านจุดพีคกันตอนอายุประมาณ 26-29 ปี ก็จะเข้าสู่ช่วงที่กราฟอาชีพจะค่อย ๆ ตกลงจนแขวนสตั๊ดกันที่อายุเฉลี่ย่ราว 35 ปี ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอาชีพที่มีอายุการทำงานค่อนข้างสั้น ฉะนั้นหากใครแจ้งเกิดได้ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็จะถือครองความได้เปรียบอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักเตะอีกส่วนหนึ่งที่ถึงแม้ตอนเป็นเด็ก ตอนเป็นหนุ่ม ๆ จะไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย จนกระทั่งอายุมากแล้วถึงเพิ่งมาโด่งดังเปรี้ยงปร้าง เผื่อว่าจะลืมกัน เราเลยหยิบมาเล่าให้ได้อ่านได้ฟังกันสักหน่อย ไหนมีใครบ้างเลื่อนลงไปชม !

1. เอียน ไรท์

อย่างที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี เอียน ไรท์ คนนี้แหละคือกองหน้าระดับตำนานของทีม อาร์เซนอล ในช่วงยุค 90 โดยย้ายมาอยู่กับทีมตอนปี 1991 แล้วก็ลงเล่นไปมากถึง 288 นัด ยิงได้ 185 ประตูจากทุกรายการก่อนจะย้ายออกไปอยู่กับ เวสต์แฮม ต่อในปี 1998

แต่สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนแทบจะลืมไปแล้วก็คือ เอียน ไรท์ นั้นไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมาก่อนเลย เพราะในอดีตตอนค้าแข้งให้กับ คริสตัล พาเลซ นั้นเขาเอาแต่วิ่งงก ๆ อยู่ในลีก ดิวิชั่น 2 ของอังกฤษ

และทันทีที่ย้ายขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด (สมัยนั้นยังเป็น ดิวิชั่น 1) ได้สองปี อาร์เซนอล ก็มาดึงเอาตัวไปอยู่ด้วย พร้อมแจ้งเกิดได้ในทันทีตั้งแต่ปีแรก แต่เชื่อไหมเวลานั้น ไรท์ ก็อายุตั้ง 28 แล้วนะเออ

2. อันโตนิโอ ดิ นาตาเล

หลายคนอาจจะรู้จัก ดิ นาตาเล คนนี้ดีอยู่แล้ว เพราะเขาคือหนึ่งในแข้งระดับตำนานของทีม อูดิเนเซ ที่มีสถิติการทำประตูสูงลิบลิ่วจนไม่มีใครอยากเชื่อว่าจะเล่นอยู่กับทีมระดับกลาง ๆ อย่างนี้ได้ตลอดจนแขวนสตั๊ด

ในช่วงแรก ๆ ของเส้นทางพ่อค้าแข้ง ดิ นาตาเล นั้นโตขึ้นมากับ เอ็มโปลี ซึ่งก็ไม่ได้โด่งดังอะไร ยิงได้บ้างไม่ได้บ้าง ก่อนจะถูก อูดิเนเซ ซื้อตัวไปอยู่ด้วยตอนปี 2004

จากนั้น ฟอร์มของกองหน้าชาวอิตาลีคนนี้ก็ทรง ๆ มาเรื่อย ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่โดดเด่นจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูกาล 2009-10 ซึ่งเจ้าตัวลงเล่นในลีกไป 35 นัดตะบันได้ 29 ประตู ! จนแจ้งเกิดขึ้นมาเป็นตัวท็อปของทวีปสำเร็จเอาตอนอายุ 29 ปีพอดิบพอดี และก็รักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ติดต่อกันไปอีกหลายซีซั่นจนกระทั่งแขวนสตั๊ดตอนปี 2016 ที่ผ่านมา

3. ริคกี้ แลมเบิร์ต

แข้งดังตอนแก่รายที่ 3 ของเราในลิสต์นี้ สาวกหงส์แดงทุกคนน่าจะรู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี เพราะเขาคือกองหน้าผู้ประกาศตัวว่าเป็น “เดอะ ค็อป” ที่รักทีม ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ

อย่างไรก็ตาม แลมเบิร์ต นั้นไม่เคยมีชื่อเสียงอะไรในฐานะนักฟุตบอลมาก่อนเลยจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูกาล 2012-13 เพราะก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเล่นอยู่แต่ในลีกดิวิชั่นล่าง ๆ ทั้ง ลีกวัน, ลีกทู รวมถึงแชมเปียนชิพ มาโดยตลอด เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาสัมผัสเกมลีกสูงสุดครั้งแรกก็คือปีดังกล่าวกับ เซาธ์แฮมป์ตัน นั่นแหละ

จากนั้นชื่อเสียงของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะลีลาการทำประตูอันเกรี้ยวกราดร้อนแรง ที่ยิงติดต่อกันรัว ๆ ได้ถึงสองปีนี่แหละ แต่น่าเสียดายที่หลังจากย้ายไปเล่นให้ทีมรักได้ตามฝันแล้ว ฟอร์มของเขากลับดร็อปลงจนตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงอีกแล้ว

4. เจมี วาร์ดี

ในฤดูกาล 2015-16 ที่ผ่านมานั้น เจมี วาร์ดี คือกองหน้าที่มีฟอร์มการเล่นร้อนแรงและชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดบนเกาะอังกฤษ หรืออาจจะทั่วทั้งโลกเลยก็ได้ เพราะจากอดีตนักเตะโนเนมที่เล่นให้กับทีมหนีตกชั้นอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้  จะพากันก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างไม่มีใครเชื่อแบบนั้น

ด้วยจำนวนประตูมากมายที่ วาร์ดี้ ยิงได้ รวมถึงการทำลายสถิติอันยิ่งใหญ่ของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำให้ไม่มีใครบนโลกไม่รู้จักชื่อของเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะขนาดผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ด ยังมีแผนจะเอาประวัติส่วนตัวไปสร้างเป็นภาพยนตร์กันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เส้นทางลูกหนังของกองหน้าชาวอังกฤษคนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะราบรื่นอะไรขนาดนั้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่เท่าไหร่ วาร์ดี้ ยังเล่นให้กับทีมนอกลีกอยู่เลย ก่อนจะค่อย ๆ ขยับขึ้นมาอยู่กับ เลสเตอร์ ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 1 ล้านปอนด์

แถมปีที่เจ้าตัวยิงรัว ๆ จนพาทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินเป็นแชมป์นั่นก็อายุปาเข้าไป 29 ปีแล้วนะนั่น

5. ลูก้า โทนี

หากถามว่าบนโลกนี้ นักฟุตบอลคนไหนคือ “แข้งพเนจร” ที่เก่งสุด แน่นอนว่าคำตอบส่วนใหญ่จะต้องพุ่งเป้ามาที่ ลูก้า โทนี คนนี้จนเกือบจะเป็นเอกฉันท์ เพราะตลอดเส้นทางค้าแข้งของเขานั้นย้ายทีมมาแล้วมากกว่า 10 สโมสร

ปีที่ ลูก้า โทนี เริ่มแจ้งเกิดขึ้นมาจนพอจะมีคนรู้จักหน้าค่าตามากขึ้นก็คือฤดูกาล 2004-05 ที่ยิงให้ ปาแลร์โม ได้ 20 ประตูนั่นเอง

ซีซั่นถัดมา โทนี ก็ย้ายไปอยู่กับ ฟิออเรนตินา ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังจนถึงขีดสุดในฐานะกองหน้าผู้ทำประตูได้เป็นอบเป็นกำจนถูกยกย่องสรรเสริญจากคอลูกหนังทั้งโลกว่านี่แหละคือแข้งระดับท็อปตัวจริง

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็ต้องรอจนอายุ 28 เลยเหมือนกันนะ