ณ เวลานี้ก็เรียกว่าเข้าสู่ปี 2018 กันอย่างเต็มตัวไปแล้ว และตลาดซื้อ-ขายนักเตะในช่วงหน้าหนาวก็จะเริ่มเปิดม่านขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเชื่อเลยว่านี่เป็นอีเวนท์ที่คอลูกหนังทั้งโลกกำลังให้ความสนใจอย่างมากถึงมากที่สุด

และทีมที่เร็วกว่าใครในปีนี้ก็เห็นจะเป็น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาปิดดีล เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จากเซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้แล้วด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์ โดยที่ไม่มีอะไรมาการันตีว่านักเตะคนนี้จะทำผลงานได้คุ้มเม็ดเงิน

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เรายังไม่รู้ว่าแข้งย้ายทีมในหน้าหนาวนี้จะมีใครบ้าง แล้วพวกเขาจะทำผลงานกันได้ดีแค่ไหน แต่สำหรับคนที่ถูกซื้อไปแล้วตั้งแต่เมื่อหน้าร้อนก็ได้แสดงศักยภาพออกมาสู่สายตาชาวโลกกันไปเป็นที่เรียบร้อย

เราจึงคัดคนที่เป็นสุดยอดดีลประจำซัมเมอร์ 2017-18 มาให้ดูกัน 5 คน อ่านจบแล้วช่วยบอกหน่อยว่าพวกเขาเหมาะสมที่จะได้รับคำชื่นชมนี้กันมากน้อยแค่ไหนและมีใครที่เราตกหล่นไปบ้าง แชร์ไอเดียกัน

5. ไคลน์ วอล์คเกอร์

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ค่าตัว 50 ล้านปอนด์

ในวันที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจควักเงิน 50 ล้านปอนด์จ่ายให้ สเปอร์ส เพื่อดึงแบ็คขวาหน้าตาธรรมดาคนนี้ขึ้นเรือใบสีฟ้า คนทั้งโลกต่างวิจารณ์กันให้เซ็งแซ่ว่า ราคาแพงเวอร์ขนาดนี้ได้อย่างกับกับผู้เล่นที่ไม่ใช้เกรดระดับท็อปของโลกแบบนี้

แต่หลังผ่านพ้นไปแล้วครึ่งฤดูกาล อดีตฟูลแบ็คไก่เดือยทองก็ใช้ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของตัวเองอุดปากพวกคนท่าแซะซะจนเงียบหายไปจากหน้าสื่อได้แบบถาวร ที่สำคัญ ณ เวลานี้จะหาแบ็คขวาคนไหนในโลกเล่นได้โดดเด่นเท่า วอล์คเกอร์ ก็คงจะไม่มีอีกแล้ว

ฉะนั้นการยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในดีลที่ดีสุดประจำฤดูร้อนของซีซั่นนี้ก็คงจะไม่เกินเลยความจริงไปสักเท่าไหร่นัก

4. เปาลินโญ

กวางโจว เอฟเวอร์แกรนด์ ไป บาร์เซโลนา

ค่าตัว 40 ล้านยูโร

สำหรับ เปาลินโญ นั้น คอลูกหนังส่วนใหญ่คุ้นเคยกับชื่อแซ่ของเขากันดี เพราะเมื่อหลายปีก่อนเคยมาค้าแข้งให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ก่อนจะถูกสอยไปอยู่ในลีกประเทศจีนตอนปี 2015

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เขาไม่ได้เป็นคนโดดเด่นอะไรมาตั้งนานแล้ว แถมยังเล่นฟุตบอลในลีกที่มีระดับต่ำกว่ามาตรฐานยุโรปมานานถึง 2 ปี ทำให้ยากจะยอมรับได้ว่า มิดฟิลด์แซมบ้า คนนี้จะมีดีพอให้ บาร์เซโลนา ยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงตัวมาอยู่ด้วย

แต่แล้วทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะ เปาลินโญ ระเบิดฟอร์มอันยอดเยี่ยมออกมาได้ตลอดทุกนัดที่ลงเล่นตั้งแต่วันเปิดฤดูกาลมาเลย และที่ บาร์ซา นำเป็นจ่าฝูงได้อยู่แบบนี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้เขาด้วยเช่นกัน

3. ซิโมเน ซาซา

ยูเวนตุส ไป บาเลนเซีย

ค่าตัว 16 ล้านยูโร

ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านเรื่องราวของเฮียคนนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่าให้ลืมความเป๋อของกองหน้าหัวโล้นคนที่ ย่อง ๆ ๆ ไปยิงจุดโทษข้ามคานจน อิตาลี ต้องแพ้ เยอรมนี ในศึกยูโร 2016 และคนที่ฟอร์มห่วยสุด ๆ กับ เวสต์แฮม เมื่อซีซั่นก่อนไปซะให้สนิท

เพราะในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ ซาซ่า ย้ายออกจากถิ่นม้าลาย ยูเวนตุส เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของวังค้างคาว บาเลนเซีย อย่างถาวร เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง

หลังจากลงสนามไปแล้วทั้งหมด 14 เกมในลีก เจ้าหัวหลอดไฟคนนี้กางปีกแยกเขี้ยวขย้ำตาข่ายฝ่ายตรงข้ามไปแล้วมากถึง 10 ประตู พร้อมกับมีฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงจนไม่มีใครหยุดอยู่ บอกเลยนาทีนี้เจอคู่แข่งคนไหนพี่เค้าก็ไม่มีกลัว !!

2. โมฮาเหม็ด ซาลาห์

โรมา ไปอยู่ ลิเวอร์พูล

ค่าตัว 37 ล้านปอนด์

เชื่อว่าพอเลื่อนมาเจออันดับ 2 ของลิสต์นี้เป็นชื่อ ซาลาห์ เด็กหงส์หลายคนจะต้องเผลอจิ๊ปากแบบหงุดหงิด ๆ ออกมาอย่างไม่ตั้งใจแน่ เพราะฟอร์มของปีกตัวจี๊ดคนนี้มันสุดยอดจนหาใครมาเปรียบแทบไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

เหมือนกับหลาย ๆ คนที่พูดถึงมา วันที่ เจอร์เกน คล็อปป์ จ่ายเงินก้อนโตดึง ซาลาห์ เข้ามาอยู่ด้วยนั้น เจ้าตัวก็ถูกวิจารณ์หนักจากบรรดากูรูทั้งหลายว่าเก่งไม่คุ้มกับเงินที่ทีมจ่ายไป แถมยังมีนิสัยเสียเรื่องของระเบียบวินัย พร้อมขุดเอาจุดอ่อนโน่นนั่นนี่มาตำหนิกันอย่างสนุกปาก

แต่หลังจากที่ผ่านการลงเล่นมาแล้วทั้งหมดครึ่งซีซั่น เจ้ายาแก้ปวดจากดินแดนไอยคุปต์ก็จัดการตะบันไปแล้วมากถึง 23 ประตูจากการลงเล่นเพียง 29 นัด แถมยังมีฟอร์มการเล่นอันสุดยอดจนกลายเป็นแถวหน้าของยุโรปไปแล้ว อย่างนี้ยังจะบอกว่าไม่คุ้มกันอยู่ไหม ?

1. เนย์มาร์

บาร์เซโลนา ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

ค่าตัว 222 ล้านยูโร

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าดีลที่มีค่าตัวสูงมากกว่า 200 ล้านยูโร นั้นจะเกิดขึ้นจริงเอาในปี 2017 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ เพราะตัวเลขแบบนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ต้องบอกว่ามัน “เวอร์เกินเหตุ” ไปจริง ๆ

แต่ถึงกระนั้นเราก็ไปว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่ได้หรอก เพราะในเมื่อพวกเขามีเงินมากพอ และคิดคำนวนแล้วว่าดีลนี้ยังไงก็คุ้ม สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของพวกเขา เรามีหน้าที่ตามเชียร์กันไปเท่านั้นพอ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ เนย์มาร์ นั้นเป็นถึง 1 ใน 3 ผู้เล่นที่เก่งสุดของโลกมานานหลายปี ฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่กับทีมไหนก็ย่อมเล่นดีได้ตามที่คาดหวังอยู่แล้ว และปีนี้เขาก็จัดการยิงไปแล้ว 17 เม็ดจากการลงสนามเพียงแค่ 20 เกมเท่านั้น เรียกได้ว่าเกือบจะนัดละลูกเลยทีเดียว บอกเลยว่าดีลแบบนี้ยังไงก็คุ้ม ถึงแม้จะราคาสูงเวอร์ไปก็ตามที