ถึงแม้ว่าในเกมระดับสโมสรนั้น ลีโอเนล เมสซี จะถูกยกย่องให้เป็นที่สุดของที่สุดทั้งในแง่ของความสำเร็จที่ได้รับมากมาย รวมถึงฝีเท้าที่อยู่เหนือระดับของมนุษยชาติไปแล้ว

แต่พอมองไปที่ผลงานและฟอร์มการเล่นของเขากับทีมชาติ อาร์เจนตินา แล้วก็ต้องบอกว่ามันยังมีอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเจ๋ง ขณะที่มีคอลูกหนังส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่าแย่จนเหมือนเป็นคนละคนกับเจ้าหนูมหัศจรรย์ยามสวมชุดของ บาร์เซโลนา เลยด้วยซ้ำ

และเมื่อปีที่แล้ว เมสซี ได้ประกาศอำลาทีมชาติไปหลังเสร็จศึก โคปา อเมริกา ที่เจ้าตัวผิดหวังอย่างแรกกับการพ่ายต่อ ชิลี ในนัดชิงชนะเลิศ รวมถึงปัญหาการเมืองภายในสมาพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินา ซึ่งเขาไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือแบกรับอะไรที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทัพฟ้า-ขาวเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่มาเป็น เอ็ดการ์โด เบาซา ทั้งสองฝ่ายก็พูดคุยปรับความเข้าใจกันจนเจ้าเอเลี่ยน ยอมติดธงช่วยชาติอีกครั้ง

ทีนี้เรามาดูกันว่า ที่คนเขาล้อ เมสซี กับเกมระดับชาติกันปาว ๆ นั้น แท้จริงแล้วเจ้าตัวก็โชว์ทีเด็ดปล่อยของออกมาให้เห็นบ่อย ๆ เราเลยถือคัดนี้คัด 5 เกมที่เขาเค้นฟอร์มเทพช่วยทีมเอาชนะคู่จากสถานการณ์ที่ยากลำบากมาเล่าสู่กันฟัง

5. สวิตเซอร์แลนด์ 1-3 อาร์เจนตินา (อุ่นเครื่อง 2012)

การแข่งขันอุ่นเครื่องกับ สวิตเซอร์แลนด์ แมตช์นี้ คือครั้งแรกที่ เมสซี ทำแฮตทริกได้ในการลงเล่นทีมชาติ จึงถือเป็นเกมที่เขาจะต้องจดจำไปตลอดกาลเลยทีเดียว โดยเม็ดแรกนั้นมาจากจังหวะลากบอลผ่านแนวรับคู่แข่งไปอย่างเหนือชั้นก่อนส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายสำเร็จ

ต่อมาไม่นาน เซอร์ดาน ชากิรี ดาวเตะเจ้าของฉายา “เมสซี่สวิตฯ” ก็ปล่อยของบ้าง จนยิงลูกตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 49 เวลาผ่านไปจนเกมทำท่าจะจบลงแบบนี้ เจ้าหนูมหัศจรรย์ ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความน่าเกรงขามดุดันที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ตะบันแซงได้ตอนนาทีที่ 87 ก่อนจะรับหน้าที่สังหารจุดโทษที่ได้มาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยทีมชนะ 3-1 พร้อมเอาบอลกลับบ้านไปเป็นของที่ระลึก

4. บราซิล 3-4 อาร์เจนตินา (อุ่นเครื่อง 2012)

หากพูดถึงนักเตะระดับตำนานอย่าง ดิเอโก้ มาราโดนา แล้วลายเซ็นเฉพาะตัวของเขาที่เรามักเห็นกันจนชินตาก็คือการเลี้ยงบอลติดเท้าฝ่าแนวรับคู่แข่งเข้าไปทำประตู ซึ่งถือเป็นทักษะที่ยากจะมีใครทำได้ดีเท่า

แต่ในเกมกับคู่แข่งที่ขึ้นชื่อว่าแกร่งสุดทีมหนึ่งของโลกอย่าง บราซิล เจ้าเอเลี่ยนของเรานั้นกลับทำอย่างนั้นออกมาได้แบบชิล ๆ และทำแฮตทริกที่สองของตัวเองในการลงเล่นเกมทีมชาติอีกด้วย ซึ่งหลังจบเกมคนอาร์เจนฯ ทั้งแผ่นดินจึงพากันสรรเสริญเขาว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้ลุงเสือเตี้ยเลยทีเดียว

แต่ทีเด็ดของแมตช์นี้อยู่ที่การเสมอกันมาจนถึงนาทีที่ 85 ต่างหาก พอพูดมาแบบนี้คงเดากันไม่ยากแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป… ใช่ครับ เมสซี ใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ยลากบอลฝ่ากองหลังไปเป็นกะบิก่อนจัดการสังหารอย่างเลือดเย็น พาทีมคว้าชัยชนะมาครองได้อย่างสะใจโจ๋ฟ้า-ขาว ในแบบที่ไม่น่าจะมีใครทำได้อีกแล้วต่อจากนี้จนตลอดไป

3. อาร์เจนตินา 1-0 อิหร่าน (ฟุตบอลโลก 2014)

ในเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ อาร์เจนตินา ได้เข้าชิงฯ นั้น เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างใด เพราะพวกเขาต้องเจอกับความยากลำบากกันตั้งแต่เกมในรอบแบ่งกลุ่มเลยทีเดียว แถมทีมที่สร้างปัญหาหนักให้นั้นดันเป็น อิหร่าน จากทวีปเอเชียเสียด้วยสิ

โดยเกมดังกล่าวทีมบ๊วยของกลุ่มอย่าง อิหร่าน นั้นจัดการต้านการบุกของ อาร์เจนตินา ได้อยู่หมัดทั้งหมด เรียกได้ว่าแทบไม่มีจังหวะสร้างอันตรายมากมายเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ จนสามารถรักษาสกอร์อยู่ที่ 0-0 ได้จนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

แต่แล้วนาทีที่ 91 เจ้าเมสซี นี่แหละที่เป็นตัวแสบ เพราะพอรับบอลจาก ลาเวซซี มาได้ปุ๊บ เขาก็ใช้จังหวะเพียงเสี้ยววินาที แต่งบอลก่อนสับด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษส่งลูกพุ่งอย่างจรวดนำวิถีเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเหลือเชื่อ เก็บสามแต้มออกไปจากเกมอันน่าอึดอัดนี้จนได้ตามที่หวัง

2. อาร์เจนตินา 1-0 อุรุกวัย (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2016)

หลังจากที่ เมสซี ประกาศว่าจะกลับมาเล่นให้ทีมชาติอีกครั้งเมื่อปี 2016 เขาก็เป็นเหมือนขวัญและกำลังใจอันสำคัญให้กับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงมอบประตูงาม ๆ พาทัพฟ้าขาวคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งได้ทันทีอีกด้วย

แมตช์ต้อนรับการติดธงของ เมสซี กับ ปารากวัย นี้ ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะทุกคะแนนที่ได้และเสียไปนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อสิทธิ์การได้เข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียนั่นเอง

และเจ้าหนูมหัศจรรย์ของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อจัดการซัดประตูชัยจากนอกกรอบเขตโทษช่วยทีมชนะไปได้ 1-0 พร้อมทำสถิติแซง กาเบรียล บาติสตูต้า ขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติ อาร์เจนตินา ได้อีกด้วย

1. เอกวาดอร์ 1-3 อาร์เจนตินา (ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2017)

สุดยอดเกมทีมชาติอันดับหนึ่งของ เมสซี นั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นไปหมาด ๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง โดยเป็นแมตช์สุดท้ายของเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกในโซนอเมริกาใต้ ซึ่งหาก อาร์เจนตินา ไม่สามารถเก็บชัยชนะมาได้ พวกเขาก็อาจจะไม่ได้ไปเล่นในรายการสำคัญนี้เลยทีเดียว

และหลังจากเริ่มเกมมาได้แค่ 1 นาที กองเชียร์ฟ้า-ขาวก็ต้องเอามือกุมหัว เพราะเจ้าถิ่น เอกวาร์ดอร์ ซัดประตูออกนำไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ เมสซี จะมายิงตีเสมอเอาตอนนาทีที่ 12

จากนั้นอีก 8 นาที กัปตันคนเก่งก็บวกเพิ่มได้อีกลูก จน อาร์เจนฯ พลิกกลับมาครองความได้เปรียบด้วยสกอร์ 2-1 เพราะเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายโดยอัตโนมติ แต่ความน่ากลัวนั้นอยู่ที่การนำแค่ลูกเดียวไปเรื่อย ๆ จนใกล้หมดเวลานั้นจะก่อแรงกดดันมหาศาล โดยเฉพาะกับเกมที่มีความหมายสำคัญอย่างนี้

แต่แล้ว เมสซี คนเดิมก็มาทำแฮตทริกได้สำเร็จเอาตอนนาที 63 เรียกว่าเป็นการการันตีได้ค่อนข้างแน่ว่าทีมจะคว้าสามแต้มเต็มจากแมตช์นี้ พร้อมทั้งประกาศให้โลกได้รู้ว่าเขาพร้อมแล้วที่จะพา อาร์เจนตินา ก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จในรายการนี้ให้ได้อย่างจริงจังเพื่อจารึกชื่อเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เหมือนกับคนอื่นๆ  เขาบ้างนั่นเอง