สำหรับ ฟุตบอลโลกปี2018 ที่รัสเซียรอบคัดเลือกของโซนเอเชียก็ได้เดินทางมาถึงนัดสุดท้ายกันแล้ว โดยในกลุ่มบี ทีมชาติออสเตรเลียจะเปิดบ้านเจอกับ ทีมชาติไทย ซึ่งความเดิมพันธ์ต่างกันระดับร้อยล้านเอเคอร์เลยทีเดียวเพราะทีมออสซี่นั้นต้องชนะสถานเดียวและลุ้นให้ทีมชาติซาอุฯไม่ชนะทีมชาติญี่ปุ่นด้วยในนัดสุดท้ายที่กรุงริยาด ขณะที่ทีมชาติไทยของพวกเราตกรอบไปตั้งไก่โห่แล้วนั้นเอง

ทีมชาติออสเตรเลีย vs ทีมชาติไทย
วันอังคารที่ 5 กันยายน 2560
เวลา 17.00 น.
ช่อง : CH7

ทัพจิงโจ้นั้นอยู่ในอันดับ 3 ของตารางมีคะแนนเท่ากับทีมอันดับที่ 2 อย่างทีมชาติซาอุฯนั้นก็คือ 16 คะแนนแต่ลูกได้เสียตามอยู่ 2 คะแนน ต้องเอาชนะทีมชาติไทยให้ได้หากหวังเข้ารอบและก็ต้องไปลุ้นทัพซามูไรให้บุกไปไม่แพ้ซาอุฯอีกด้วย ขณะที่ลูกทีมของมิโลวาน ราเยวัช เล่นเพื่อศักดิ์ศรีและต้องทำผลงานให้เข้าตาแฟนบอลที่สุดแค่นั้นเองเพราะไม่มีโอกาสไปเตะรอบสุดท้ายแน่นอนแล้วและยังต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆนั้นก็คือมาเยือนทีมชาติออสเตรเลียในวันที่พวกเขาเล่นเพื่อชนะ !!!

สถิติที่เคยพบกันนัดหลังสุด
ทีมชาติไทย 2-2 ทีมชาติออสเตรเลีย (คัดบอลโลก)
ทีมชาติไทย 0-1 ทีมชาติออสเตรเลีย (คัดบอลโลก)
ทีมชาติออสเตรเลีย 2-1 ทีมชาติไทย (คัดบอลโลก)
ทีมชาติไทย 0-4 ทีมชาติออสเตรเลีย (เอเชียน คัพ)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของทีมชาติออสเตรเลีย
ทีมชาติญี่ปุ่น 2-0 ทีมชาติออสเตรเลีย
ทีมชาติชิลี 1-1 ทีมชาติออสเตรเลีย
ทีมชาติแคเมอรูน 1-1 ทีมชาติออสเตรเลีย
ทีมชาติออสเตรเลีย2-3 ทีมชาติเยอรมนี
ทีมชาติออสเตรเลีย 0-4 ทีมชาติบราซิล

สถิติ 5 นัดหลังสุดของทีมชาติไทย
ทีมชาติไทย 1-2 ทีมชาติอิรัก
ทีมชาติไทย 0-0 ทีมชาติเบลารุส
ทีมชาติไทย 3-0 ทีมชาติเกาหลีเหนือ
ทีมชาติไทย 1-1 ทีมชาติสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์
ทีมชาติอุซเบกิสถาน 2-0 ทีมชาติไทย

ความพร้อมของทั้งสองทีม
ทีมชาติอิรัก : อังเกลอส โปสเตโคกลู เทรนเนอร์วัย 52 ปีชาวกรีซของพลพรรคซอคเกอร์รูสนั้นต้องชนะสถานเดียวในนัดนี้หลังจากบุกไปพ่ายญี่ปุ่นมา 2-0 ซึ่งเขาต้องจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนามอย่างแน่นอน นายประตูจะใช้แมทธิว ไรอัน จอมหนึบจากไบรตัน แผงหลังตรงกลาง 3 คนจะเป็นชุดเดิมจากเกมที่พ่ายทีมชาติญี่ปุ่นนั้นก็คือเทรนท์ เซนส์บิวรี,แมทธิว สไปราโนวิช และมาร์ค มิลลิแกน โดย 2 รายแรกนั้นเล่นฟุตบอลอยู่ในไชนีส ซุเปอร์ ลีก ส่วนวิงแบ็ค 2 ข้างจะเป็นตัวที่เล่นอยู่ในลีกยุโรปอย่างแมทธิว เล็คกี กับแบรด สมิธ โดยมีกลางรับคุมจังหวะของเกมอยู่ 2 คนนั้นก็คือมัสซิโม ลูออนโก กับแจ็คสัน เออร์ไวน์ ส่วนตัวรุกหลังกองหน้าจะใช้เป็นทอม โรกิช จากกลาสโก เซลติก และเจมส์ ทรอยซี ที่อดีตเคยเป็นนักเตะเก่าของนิวคาสเซิ่ล ส่วนหัวหอกตัวเป้าในนัดนี้จะเป็นจอมขยันอย่างร็อบบี้ ครูส โดยมีทิม เคฮิลล์ กองกลางตัวเก๋ารอโอกาสอยู่ที่ข้างสนาม

ทีมชาติไทย : มิโลวาน ราเยวัช นายใหญ่ของทัพช้างศึกจะไม่มีฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่โดนใบแดงไล่ออกในนัดที่แพ้อิรักคาบ้านเพียงคนเดียวนอกนั้นอยู่กันครบ นายประตูจะเปลี่ยนมาเป็นโอกาสของศิวรักษ์ เทศสูงเนิน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แผงหลังจะยังใช้ชุดเดิมแม้ว่านัดล่าสุดเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว จะพลาดทำทีมเสียลูกจุดโทษก็ตามที โดยกัปตันจากสวาทแคทจะยังได้ยืนคู่กับพรรษา เหมวิบูลย์ ต่อไปเช่นเดียวกับแบ็คขวาและซ้ายก็จะยังเป็นอดิศร พรหมรักษ์ กับพีระพัฒน์ โน้ตชัยยา 2 ผู้เล่นจากเอสซีจี เมืองทองฯ แดนกลางแม้ว่ากองกลางชาวกำแพงเพชรอย่างวัฒนา พลายนุ่ม จะเล่นไม่ดีแต่กุนซืออย่างราเยวัชมีตัวเลือกไม่มากก็ต้องส่งเขาลงเป็นตัวจริงต่อไป โดยคาดว่าอุ้ม ธีราทร จะถูกหุบมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับทางวัฒนา และเอาชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปเล่นเป็นปีกซ้าย โดยมีสิโรจน์ ฉัตรทอง เป็นปีกขวา และส่งกัปตันแบงคอกฯอย่างสรรวัชญ์ เดชมิตร เป็นกองกลางตัวรุก โดยกองหน้าตัวความหวังจะยังเป็นธีรศิลป์ แดงดา ต่อไป

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม
ทีมชาติออสเตรเลีย  : แมทธิว ไรอัน – เทรนท์ เซนส์บิวรี,แมทธิว สไปราโนวิช,มาร์ค มิลลิแกน – แมทธิว เล็คกี,แบรด สมิธ,แจ็คสัน เออร์ไวน์,มัสซิโม ลูออนโก,เจมส์ ทรอยซี,ทอม โรกิช – ร็อบบี้ ครูส

ทีมชาติไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน – อดิศร พรหมรักษ์,เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว,พรรษา เหมวิบูลย์,พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา – ธีราทร บุญมาทัน,วัฒนา พลายนุ่ม,สิโรจน์ ฉัตรทอง,สรรวัชญ์ เดชมิตร,ชนาธิป สรงกระสินธ์ – ธีรศิลป์ แดงดา

ทรรศนะ
ก่อนเกมจะเริ่มใครๆก็รู้อยู่แล้วละว่าทีมชาติออสเตรเลียนั้นแข็งแกร่งกว่าทีมชาติไทยขนาดไหน และด้วยสถานการณ์ที่พวกเขาต้องชนะเพื่อเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายให้ได้ยิ่งทำให้พวกเขามีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิมเป้นพิเศษอย่างแน่ๆ ทีมชาติไทยก็คงเน้นตั้งรับและหาจังหวะสวนกลับดีๆ…ซึ่งมันก็ทำได้แค่นี้จริงๆไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้วเพราะทั้งประสบการณ์,ความสามารถส่วนตัว,รูปร่างร่ายการ และยังได้เล่นในบ้านทำให้ขุนพลออสซี่ดูดีกว่าทีมชาติไทยไปซะทุกอย่าง หากไม่อยากให้ทีมชาติไทยโดนอัดน่วมและเละก็ต้องภาวนาแล้วละให้ทีมฝรั่งตาน้ำข้าวเล่นแบบกดดันตัวเอง…ประตูแรกไม่ได้มาเร็วๆ นั้นแหละถึงจะทำให้ทีมของราเยวัชมีโอกาสแบ่งแต้มกลับออกมา

โอกาสชนะ
ทีมชาติออสเตรเลีย โอกาสชนะ 60%
โอกาสเสมอ 10%
ทีมชาติไทย โอกาสชนะ 30%

ราคาแฮนดิแคป
ทีมชาติออสเตรเลีย ต่อ 3 ราคา 1.90
(แทง 100 ได้ 190 บาท)
* ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ราคาแฮนดิแคป
ออสเตรเลีย ต่อ 3 ราคา 1.90
(แทง 100 ได้ 190 บาท)
*ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ดูราคาเต็มคู่ ออสเตรเลีย vs ไทย คลิกที่นี่!