เมื่อไหร่ก็ตามที่ศึกฟุตบอลโลก โคจรหมุนเวียนมาถึง ผู้คนจากทั่วโลกก็คล้ายจะตกอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของงานรื่นเริง เพราะไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับฟุตบอลนั้นจะถูกเอ่ยถึงอยู่ตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังเป็นช่วงเวลาที่ วงการลูกหนังจะได้แฟนบอลผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างมากมายด้วย ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยสาวใหญ่หรือวัยไหน ๆ ก็ตาม เพราะพวกหล่อนจะได้เห็นหน้าค่าตาของนักฟุตบอลกันชัดเจนที่สุด ราวกับคัดมาให้ยืนชี้เรียงตัวเลยว่าคนไหนเบ้าหน้าผ่าน คนไหนเบ้าหน้าไม่ผ่าน วันนี้เราเลยลองหยิบเอาแข้งดาวดังผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเย้ายวนใจมากที่สุด 9 คนมาให้ได้ยลโฉมกัน และหากผู้อ่านคนไหนนึกออกเพิ่ม ลองบอกเรามาได้นะว่าใครคือแข้งหน้าตาดีที่อยู่ในดวงใจกันบ้าง

สำหรับวงการลูกหนังแล้ว การซื้อขายย้ายทีมนั้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้เล่นทุกคน (เรียกว่าคนไม่เคยย้ายทีมนั้นน้อยจนแทบนับนิ้วได้เลยดีกว่า) และก็มีอยู่อีกมากมายที่เติบใหญ่ขึ้นมาจนกลายเป็นผู้เล่นระดับตำนานของสโมสรตัวเอง ก่อนจะย้ายออกไปค้าแข้งที่อื่นตามวิถีของอาชีพนักฟุตบอล ซึ่งในจำนวนนั้นเราจะเห็นว่ามีบางคนที่ได้รับโอกาสกลับคืนสู่บ้านเดิมอันแสนอบอุ่นของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่มันทำให้แฟน ๆ มีความสุขกันจนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แน่ กับการได้เห็นคนที่พวกเขารักสวมชุดแข่งของทีมอีกครั้ง ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีวันนีอีกแล้ว และนี่ก็คื 5 ตำนานผู้หวนคืนสู่สโมสรรักของตัวเอง

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดตลาดซื้อขายหน้าหนาวเดือนมกราคมอย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เพื่อน ๆ ทุกคนรอคอยอยู่เช่นกัน เพราะเราจะได้เห็นกันแล้วว่าทีมรักมีใครเข้ามาเสริมทีมใหม่ ๆ บ้าง อย่างไรก็ตาม หากมองกันตามสถิติแล้ว ตลาดซื้อขายหน้าหนาวเป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะหวือหวาสักเท่าไหร่นัก เพราะแต่ละสโมสรก็ไม่อยากเสียผู้เล่นสำคัญ ๆ ของตัวเองออกไปให้กับทีมอื่นกลางคันด้วยเช่นกัน และที่เราจะนำมาเสนอให้กับคุณผู้อ่านในวันนี้ก็คือ 5 สุดยอดแข้งทองที่ย้ายทีมตอนตลาดหน้าหนาว แล้วมีผลงานเปรี้ยงปังมากที่สุดบนโลกนี้

เมื่อพูดถึงทีม “ราชันย์ ชุดขาว” เรอัล มาดริด แน่นอนว่าคนทั้งโลกย่อมรู้ดีว่าพวกเขาคือสุดยอดมหาอำนาจลูกหนังที่ไม่ใช่มีอิทธิพลเฉพาะใน ลาลีกา สเปน เท่านั้น แต่แผ่กระจายออกไปทั่วโลกนั่นเลยทีเดียว และเมื่อไหร่ก็ตามที่ เรอัล มาดริด ต้องการซื้อนักเตะคนไหนเข้ามาร่วมทีม แน่นอนว่าแทบไม่มีใครอยากปฏิเสธ เพราะนี่คือหนึ่งในความฝันของนักฟุตบอลทุกคน ที่จะมีโอกาสได้ลงเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม มีนักเตะอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนน้อยนิดที่อาจหาญปฏิเสธคำเชิญของ ทีมดังแบบนี้ ส่วนจะมีใครบ้าง ต้องลองดูกัน

“ยูฟา แชมเปียนส์ลีก” ถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปรายการใหญ่ที่สุดของโลก ที่นักเตะทุกคนต้องการก้าวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดให้ได้อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต และในทุก ๆ ปีก็มีผู้เล่นมากมายผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันชูถ้วยบิ๊กเอียร์ใบนี้กันอย่างชื่นมื่นตาบาน ซึ่งก็มีหลาย ๆ คนที่โชคดีเพราะแฟนบอลเห็นชื่อแล้วยังรู้สึกว่าหากไม่อยู่กับทีมนี้คงไม่มีโอกาสได้แชมป์ UCL ไปประดับโปรไฟล์ให้ตัวเองอย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีผู้เล่นระดับโลกที่ฝีเท้าสูงส่งเหนือมนุษย์ปกติทั่วไปอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งคอลูกหนังต่างยกให้เป็นที่สุดของโลกในแบบฉบับตัวเองแล้วยังไม่เคยได้ชูถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับเขาเสียที

โฆเซ มูรินโญ กุนซือคนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมที่สร้างสีสันให้กับวงการลูกหนังได้มากที่สุดตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ เพราะนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวพา เอฟซี ปอร์โต คว้าถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก มาครองได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ก็ถือเป็นช่วงเวลาขาขึ้นสุด ๆ จนพา เชลซี ก้าวขึ้นเป็นทีมแกร่งสุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะไปผจญภัยกับทั้ง อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล  มาดริด ซึ่งก็ประสบความสำเร็จทั้งหมด แม้จะโดนปลดก็ตามที ส่วนอีกหนึ่งความโดดเด่นของเจ้าตัวที่ไม่มีใครเหมือนเลยก็คือ ความปากร้าย ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงด้วย ...

เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา คริสเตียโน โรนัลโด ถูกประกาศให้เป็นเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 2017 ซึ่งก็เหมือนเป็นการยืนยันว่าเขาคือนักเตะผู้ที่มีฝีเท้าเจ๋งสุดของโลกตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา โดย “บัลลงดอร์” นั้น เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สำคัญสุดของวงการลูกหนัง ซึ่งถูกจัดขึ้นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1956 หรือเมื่อ 61 ปีก่อนโน้น เพื่อเป็นการให้กำลังใจเหล่านักเตะที่ทำผลงานกันอย่างสุดความสามารถตลอดปีนั้น ๆ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันผู้ที่ครอบครองฟุตบอลทองคำนั้นมีอยู่แค่ 2 คนสลับกันไปมาคือ คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี ซึ่งก็ทำได้เท่ากันคือคนละ 5 ครั้ง ส่วนชายคนสุดท้ายที่ไม่ใช่ โรนัลโด้ กับ เมสซี ...

ในวงการลูกหนัง เป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ที่นักเตะดัง ๆ ของยุคหนึ่ง เมื่อถึงวันโรยรา ก็ต้องเปลี่ยนไม้ให้กับเด็กรุ่นหลังที่เติบโตขึ้นมา โดยเฉพาะกับคนที่อายุ 30 ขึ้นไปแล้ว นั่นเป็นเหมือนสัญญาณบอกว่า นี่คือโค้งสุดท้ายในอาชีพ และอีกไม่กี่ปีข้างหน้าพวกเขาก็จะแขวนสตั๊ดกันแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเมื่อของแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ เราไม่อาจฝืนได้ก็ต้องคอยตามดูแข้งรุ่นใหม่ที่เติบใหญ่ขึ้นมาเหมือนกับต้นไม้ผลัดใบ นกผลัดขน ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่ามีหลาย ๆ คนที่ไม่ธรรมดา สำหรับยุคใหม่นี้ก็เช่นกัน เริ่มมีดาวรุ่งอายุน้อย ๆ ฉายแววเทพออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ฉะนั้นเราลองมาดูกันว่า นักเตะผู้ที่มีแววจะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งแนวหน้าของวงการฟุตบอลได้นั้นมีใครกันบ้าง

หากไม่นับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาร้อนแรงได้ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด ทีมระดับ Top 5 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะรายหลังนี่เริ่มสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวท็อปเอาเมื่อราว 6-7 ปีก่อน แน่นอนว่าด้วยความเป็นทีมชั้นนำของลีกฟุตบอลชั้นยอดที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเดินทางมาค้าแข้งด้วย ทำให้มีผู้เล่นเก่ง ๆ ย้ายเข้ามาร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จ และก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจจนต้องถูกปล่อยตัวไปในภายหลัง และนี่ก็คือ 5 กองหน้าที่ต้องรู้สึก ...

เมื่อสองวันที่ผ่านมา เซ โรแบร์โต ปีกตัวจี๊ดชาวบราซิลที่เคยสร้างชื่อเสียงโด่งดังในสมัยค้าแข้งอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้วด้วยวัย 43 ปี !! โดย เซ โรแบร์โต เ นั้นเริ่มต้นเส้นทางของตัวเองครั้งแรกเมื่อปี 1994 ซึ่งการเดินทางของเขาในฐานะพ่อค้าแข้งครั้งนี้กินระยะเวลายาวนานมากกว่า 20 ปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ใครสักคนจะทำได้ และ ณ เวลานี้ ตอนนี้ วันนี้ ก็ยังเหลือแข้งดัง ๆ ที่เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งของตัวเองในยุค 90 เหลืออยู่อีกไม่กีคนที่ยังค้าแข้งอยู่ ส่วนจะมีใครบ้างนั้น เราคัดระดับเทพ ...